วิธีเลือกมุ้งนอน มุ้งแฟชั่น มุ้งเจ้าหญิงเจ้าชาย มุ้งแขวนต่างๆ
เราจะเลือกยังไง มุ้งแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะกับเราไหมดูตามนี้ได้เลยค่ะ
โดยมุ้งหลักๆ นั้นจะมีอยู่ไม่กี่แบบ เราไม่นับมุ้งที่มัดมุมแขวนเหมือนสมัยก่อนนะคะ เพราะมุ้งแบบนั้นไม่สามารถทำให้ห้องนอนเราสวยขึ้นได้แต่แค่กันยุงและแมลงต่างๆ เวลาเช้าก็ต้องม้วนเก็บไว้ข้างบน ห้องจึงดูโทรมๆ ไม่สวย ไม่ดูไฮโซ อวดห้องกับใครก็ไม่ได้
ตอนนี้มุ้ง 4 เสา รุ่นใหม่ก็เริ่มนำเข้ามาจำหน่ายแล้ว mungfashion เป็นเจ้าแรกๆ ที่นำมาขายในอินเตอร์เน็ต เนื่องจากเจ้าของร้านหามุ้งแบบนี้มาใช้เอง และที่ไทยยังไม่มีขาย จึงสั่งเข้ามาเอง เผื่อให้เพื่อนๆ อีกหลายๆท่านได้ซื้อไปใช้ด้วย ในราคาที่ยุติธรรม เหมือนเป็นคนในครอบเครัวเดียวกัน
โดยมุ้งนั้นแบ่งได้หลายแบบหลักๆ ดังนี้
1. มุ้ง 4 เสา
มุ้งแบบมีเสาทั้ง 4 มุม ปกติโครงมุ้งจะเป็นสแตนเลส วัสดุที่แข็งแรง คงทน โดยวิธีการยึดโครงเสาที่ 4 ให้ติดกับเตียงนั้น จำเป็นต้องอาศัยขาเตียงทับโครงมุ้ง ซึ่งโครงมุ้งด้านขาจะมีแถบสแตนเลสยื่นออกมาให้ขาเตียงทับได้อยู่แล้วค่ะ หลังจากต่อโครงมุ้งเสร็จแล้วค่อยเอาผ้ามุ้งมาพาดใส่ ก็เสร็จแล้วค่ะ จะได้ที่นอนเจ้าหญิง เจ้าชายโดยทันที ไม่ยุ่งยาก ประกอบง่าย ผู้หญิงประกอบได้เองง่ายๆ
หลักการเลือก- ผ้ามุ้งต้องยาวถึงพื้นเท่านั้นนะคะ ห้ามยาวแค่ระดับข้างเตียง มันจะดูไม่สวย ผ้าลอยทันที
ข้อดีคือ สำหรับคุณแม่แล้ว เตียงสามารถใช้มุ้งกันยุงให้ลูกน้อยได้เลย ลูกไม่ต้องโดนยุงกัดตัวลายอีกต่อไป ไม่เสี่ยงต่อการเป็นไข้เลือดออกตอนนอน เพราะตอนนอนเราก็นอนจึงปกป้องลูกน้อยจากยุงได้ไม่เต็มที่ค่ะ
ข้อยกเว้น สำหรับท่านที่ไม่ใช้เตียง ใช้ฟูกอย่างเดียว ไม่สามารถใช้มุ้ง 4 เสาได้ เนื่องจากฟูกไม่สามารถทับโครงมุ้งให้ไม่ล้มได้ จึงจำเป็นต้องใช้มุ้งแบบอื่นแทน
2. มุ้งมีซิป/มุ้งพับ
มุ้งแบบนี้ไม่ต้องอาศัยขาเตียงมาทับค่ะ สามารถวางบนฟูกได้เลย อาจจะเป็นคุณแม่ที่มีลูกตัวน้อย เอามุ้งวางบนฟูกได้เลยสามารถกันเด็กตกเตียงได้เลยค่ะ บางท่านยกฟูกลงมาจากเตียงไว้บนพื้นเพราะกลัวลูกตกเตียง ก็สามารถใช้มุ้งแบบนี้ได้เช่นกัน
✔ สามารถกันยุง กันตก และยังกันเด็กคลานออกไปจากมุ้งได้ด้วย
โดยมุ้งจะมีซิปปิดหมดทุกด้าน รวมถึงด้านพื้นด้วย เด็กไม่สามารถออกนอกมุ้งได้เลย ซิปสามารถรูดได้ทั้งด้านในและด้านนอกนะคะ สะดวกใช้งานง่าย
✔ โครงมุ้งนั้นจะมีทั้งแบบพลาสติกและสแตนเลส
→ แบบประกอบพลาสติกล้วนนั้น เหมาะกับมุ้งขนาด 3.5 ฟุตเท่านั้น เพราะมุ้งขนาด 5 ฟุตขึ้นไปจะอ่อนแอ เวลาขนย้ายไปไหน มุมมุ้งที่ประกอบไว้จะหลุดออกจากกันง่าย เนื่องจากมุ้งมีขนาดใหญ่เกินไป
→ แต่โครงพลาสติกจะมีราคาถูกกว่าสแตนเลสเยอะนะคะ
→ โครงมุ้งแบบสแตนเลสนั้นแข็งแรงเหมือนมุ้งแบบ 4 เสาทั่วไป เหมาะกับมุ้งขนาดใหญ่ๆ หรือเล็กๆ ก็ได้ค่ะ แข็งแรงดี มุ้ง 5, 6 , 6.5 ฟุตใช้ได้เลยไม่มีปัญหา
✔ วิธีประกอบก็ง่ายๆ ผู้หญิงคนเดียวสามารถทำได้ แต่มีอีกคนช่วยกันก็จะง่ายขึ้น
✿ ข้อดีคือ ซิปปิดได้ทุกด้าน ไม่มีทางออกสำหรับเด็กๆ แน่นอน วางไว้ตรงไหนของบ้านก็ได้ ไม่จำเป็นต้องบนฟูกหรือที่นอนอย่างเดียว ปูเสื้อกลางบ้านนั่งเล่นกับลูกๆในมุ้งก็ได้ มุ้งดูดี ดูสวย ไม่ขี้เหร่ ไม่ต้องอายใคร
✿ ข้อเสีย เนื่องจากมุ้งปิดทุกด้าน ถ้าจะเอาไปนอนบนฟูก จำเป็นต้องเอาผ้าปูไปปูในมุ้งด้วยค่ะ อาจลำบากสำหรับบางท่านก็ได้
3. มุ้งแบบแขวน
มุ้งแบบนี้ต้องเลือกดีๆ ค่ะ เพราะมันสวยจริงแต่อาจใช้ไม่สะดวก เคยเห็นในหนังกัน ที่แขวนไว้บนเพดา กันยุงแมลงต่างๆ ได้ ดูเป็นธรรมชาติดี แต่ความจริงแล้ว รัศมีตัวมุ้งสำคัญที่สุด พวกใช้แบบรัศมีแคบๆ ตามทีวี เวลานอนผ้ามุ้งจะตกเข้ามาบนที่นอน เราดิ้นผ้ามุ้งก็จะพันตัวเรา หรือไม่ผ้ามุ้งก็มาโปะอยู่บนหน้าเราเลยค่ะ ต้องขึงผ้ามุ้งกับเตียงดีๆ ไม่ให้หย่อน แต่เข้าออกไม่ได้เลยนะคะ ต้องขึงตลอดเวลา คงเหนื่อยใจโยนทิ้งกันตั้งแต่คืนแรกที่ใช้แน่นอน รัศมีที่ดีโครงมุ้งแบบแขวนต้องเท่ากับเตียงนอนเท่านั้น ผ้ามุ้งจะไปอยู่ข้างเตียงเรา เราดิ้นก็ไม่เป็นไรไม่เกี่ยวกัน แต่จะมีราคาแพงกว่าพวกที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปค่ะ
หลักการเลือกที่สำคัญ ต้องเลือกแบบที่ปรับระดับความสูงของการแขวนได้ง่ายๆ เนื่องจากเราจำเป็นต้องลดความสูงลงมาถ้าหากต้องการนำที่นอนเด็กๆ มาไว้ข้างๆเตียงเราในมุ้ง เพราะมุ้งจะสามารถยืดหยุ่นได้ถ้าสามารถลดความสูงได้ง่ายๆ
✿ ข้อดีคือ ไม่ว่าจะใช้เตียงแบบไหน มุ้งก็ครอบได้ไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องที่นอน สามารถเอาไปคลุมเตียงเด็กๆได้ด้วย ยืดหยุ่นได้ง่าย
✿ ข้อเสีย จำเป็นต้องยึดบนผนัง ใช้กาว 2 หน้าก็เอาอยู่ แต่การยึดบนผนังเลยจะแข็งแรงและถาวรกว่า อาจต้องใช้แรงผู้ชายช่วยยึดซักหน่อยค่ะ
4. มุ้งเลื่อนเข้าออกได้
มุ้งแบบนี้เก็บได้ทันทีหลังจากตื่นนอน สะดวกต่อการเก็บมากที่สุด แต่ต้องอาศัยการยึดที่ผนังหรือหัวเตียงเป็นหลัก โดยยึดโครงเหล็กไว้ หลังจากนั้นนำผ้ามุ้งสอดเข้าไปในโครงเหล็ก โครงเหล็กจะมีลักษณะพิเศษคือสามารถยืดออกได้หรือยืดเก็บได้ โดยจะเลือกยึดผนังหรือยึดเตียงก็มีค่าไม่ต่างกันนะคะ ยึดเตียงต้องเจาะยึดที่หัวเตียง ข้อจำกัดคือเตียงต้องมีพื้นที่สามารถยึดโครงเหล็กไว้ได้ ไม่ใช่เตียงโปร่งๆ ยึดไม่ได้ หรือบางคนไม่มีหัวเตียงก็ยึดไม่ได้นะคะ แบบที่ยึดติดผนังจะเป็นแบบที่สะดวกที่สุด เพราะยึดได้เลยไม่ต้องแคร์ว่าเตียงจะเป็นแบบไหน
✿ ข้อดีคือ บางครั้งเตียงที่เราใช้มีขนาดไม่มาตรฐาน หรือเราอาจมีแผนที่จะเปลี่ยนขนาดเตียงให้ใหญ่ขึ้น จาก 3.5 ฟุต เป็น 4, 5, 6 ฟุต เราใช้มุ้งแบบยึดผนังได้เลยค่ะ ในขณะที่เตียงเราเล็กมุ้งก็คลุมได้ทั้งเตียงโดยเหลือพื้นที่ด้านข้างเหลืออยู่อีกเยอะหน่อย พอเปลี่ยนขนาดเตียงให้ใหญ่ขึ้น ก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่ดี จนเราซื้อเตียงขนาดเท่ามุ้งก็ยังใช้ได้อยู่ดี
✿ ข้อเสีย มีแค่เรื่องเดียวคือ ต้องเจาะผนัง หรือเจาะยึดกับเตียงค่ะ
สอบถามเพิ่มเติม Line: alisa_sj
บทความดีๆ จาก www.mungfashion.com